วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ซอฟแวร์ที่ใช้ในงานออกแบบ 3มิติ

  
Google SketchUp (โปรแกรมออกแบบบ้าน 3 มิติ สร้างโมเดล 3 มิติ) : โปรแกรม SketchUp เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Google ชื่อเสียงเรียงนามของผู้พัฒนา ก็คงไม่ต้องบรรยายแล้วว่าดีหรือไม่ดี ที่คราวนี้เข็นเจ้า โปรแกรมออกแบบบ้าน หรือเอาไว้ สร้างโมเดล 3 มิติ ออกมาภายใต้ชื่อ Google SketchUp ออกมาให้คนอยากออกแบบ อยากเล่น อยากลอง อยากฝึกใช้ได้ทดลองใช้ หรือจะให้เด็กๆ ลองใช้ โปรแกรมออกแบบบ้าน ฝึกจินตนาการ ของเด็ก และเยาวชน กับ โปรแกรม SketchUp 


SketchUp Make (โปรแกรมทำแบบบ้าน ออกแบบห้อง สร้างโมเดล 3 มิติ) : โปรแกรมนี้ เป็นโปรแกรมออกแบบ 3 มิติ สามารถสร้างภาพที่เป็นภาพจำลอง เพื่อใช้สำหรับ งานเขียนแบบ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โปรแกรมนี้สามารถเป็นได้ทั้งโปรแกรมออกแบบบ้าน หรือจะเป็น โปรแกรมออกแบบห้อง ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น (ห้องรับแขก) หรือจะนำไปสร้างโมเดล 3 มิติ แบบออกแบบรถ ออกแบบอาคาร ออกแบบสิ่งก่อสร้าง ต่างๆ ก็สามารถได้ โดยมีวิธีการใช้งานที่ไม่ยากเลย เพราะจะมีวีดีโอสอนการใช้งาน (VDO Tutorials) และ การให้ลองทำตาม ในขณะใช้งานโปรแกรมได้เลย หากมีการออกแบบอะไรที่ไม่ซับซ้อนมาก โปรแกรมออกแบบ ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมออกแบบ ที่น่าสนใจมากๆ เพราะไม่ต้องไปซื้อโปรแกรมราคาแพงๆ เสียเงินหลายแสนมาใช้




ZWCAD (โปรแกรมเขียนแบบ เปิดไฟล์ .DWG เหมือน AutoCAD แต่ราคาถูก) : สำหรับโปรแกรมนี้มีชื่อว่า โปรแกรม ZWCAD มันเป็น โปรแกรมเขียนแบบ ประเภท CAD ที่ย่อมาจากภาษาอังกฤษเต็มๆ ว่า Computer Aided Drafting / Design โปรแกรมเขียนแบบ ZWCAD ตัวนี้ สามารถทำงานได้เหมือน ออโตแคต (AutoCAD) มีประสิทธิภาพสูง ถูกลิขสิทธิ์ แน่นอน และมีราคาถูกมากๆ ถูกพัฒนาโดยทีมผู้พัฒนาโปรแกรมจากประเทศจีน มีประสิทธิภาพสูง แต่ราคาถูกกว่ามากพอสมควร

ZWCAD ถือว่าเป็น โปรแกรมเขียนแบบ ลิขสิทธิ์ ที่สามารถใช้งานทดแทนโปรแกรมเขียนแบบอื่นๆ ที่มี ราคาคุ้มค่า ที่สุดในขณะนี้ และสามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้งานอย่างครบถ้วน สามารถทำตัวเป็น โปรแกรมออกแบบบ้าน ได้เป็นอย่างดีด้วย
ZWCAD+ (ZWCAD Plus) : โปรแกรมนี้เป็น โปรแกรม ZWCAD หรือ โปรแกรมออกแบบ รุ่นใหม่ที่ถูกปรับปรุงพัฒนาจาก ZWCAD เวอร์ชั่นเก่าที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากการพิสูจน์การใช้งานจริงโดยกลุ่มลูกค้าผู้ใช้ CAD กว่า 400,000 รายทั่วโลก ด้วยเวอร์ชั่นใหม่ที่ได้ปรับปรุงพัฒนามากขึ้นนี้จะนำประสบการณ์ใหม่ๆที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานด้านการออกแบบสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ZWCAD (โปรแกรมเขียนแบบ เปิดไฟล์ .DWG เหมือน AutoCAD แต่ราคาถูก)





Maya (โปรแกรมทำแอนิเมชั่น สร้างการ์ตูน Animation) โปรแกรม AutoDesk Maya เป็น โปรแกรมทำแอนิเมชั่น 3 มิติ (3D) ชั้นสูง ที่หนังแอนิเมชั่น ต่างๆ นิยมใช้สร้างกัน นิยมนำไปใช้สร้างการ์ตูน Animation 3 มิติ เรียกได้ว่าใครเป็นนี่ถือว่าเทพเลยทีเดียว โปรแกรม Autodesk Maya ใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลสมจริง โดดเด่นกว่า โปรแกรมทำแอนิเมชั่น 3 มิติในตลาดซอฟต์แวร์ตอนนี้ โดยโปรแกรมทำแอนิเมชั่นนี้เป็นโปรแกรมรูปแบบ Open Architecture คือ งานทั้งหมดที่คุณได้สร้างสรรค์นั้นสามารถแปลงเป็น Script ต่างๆ ได้ รวมถึงยังมี API ที่รองรับทั้ง Maya Embedded Language (MEL), Python และภาษาอื่นๆ ได้นั่นเอง
การใช้งานโปรแกรมทำแอนิเมชั่น สร้างการ์ตูน Animation นี้รองรับมาตรฐานต่างๆ ด้านงานกราฟิก 3 มิติทุกประเภท เช่น 3D Visual Effects, Computer Graphics และเครื่องมือในการ สร้างการ์ตูน Animation ราวกับว่ามีทีมงานสร้างหนังแอนิเมชั่น 3 มิติอยู่ใกล้ๆ ตัวเลยครับ ด้วยโปรแกรม AutoDesk Maya คุณสามารถจะสร้างผลงานทีวี, พัฒนาเกม และงานออกแบบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
กลุ่มเป้าหมายของการใช้งานโปรแกรม AutoDesk Maya นี้ คือ ผู้ใช้งานทุกประเภทตั้งแต่ผู้เริ่มต้น จนไปถึงระดับ Professional เลยทีเดียว ภายในโปรแกรมมีวีดีสอนการใช้งานโปรแกรมอย่างครบถ้วนทุกฟีเจอร์ เช่น การใช้ Keyframe, เลือกองค์ประกอบเฉพาะส่วน และพรีวิวการ Rendering เป็นต้น

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Maya (โปรแกรมทำแอนิเมชั่น สร้างการ์ตูน Animation)









ซอฟแวร์ที่ในงานออกแบบ 2มิติ


LibreCAD (โปรแกรมออกแบบ โปรแกรมวาดแบบ 2 มิติ) : โปรแกรมออกแบบ LibreCAD เป็น โปรแกรมออกแบบ 2 มิติ หรือที่เรียกว่า CAD 2D (Computer-Aided Design Program) ที่อยู่ในโปรเจคโอเพ่นซอร์ส (Open-Source) หากได้ยินชื่อนี้เมื่อไหร่ พึงระลึกเอาไว้เลยว่า แจกฟรี แน่นอน เพราะเป็นการพัฒนาที่เกิดขึ้นจากนักพัฒนาโปรแกรมฝีมือดีจากทั่วโลก ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน โปรแกรมออกแบบ ตรงนี้ได้เป็นพื้นที่ ที่จะมาร่วมออกแบบแลัพัฒนาร่วมกัน โดย โปรแกรมออกแบบ ตัวนี้สามารถออกแบบวัตถุต่างๆ ได้ 2 มิติ (2D) เท่านั้น ซึ่งสามารถใช้ออกแบบวัตถุ สื่งของ หรืออะไรก็ได้ที่ง่ายๆ อาทิเช่น กลไกของเครื่องจักรกล วิศวกรออกแบบสิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น เป็น โปรแกรมออกแบบบ้าน ได้ดี หรือจะไปใช้ ออกแบบครัวเรือน ออกแบบตึก ออกแบบอาคาร ออกแบบห้อง เพื่อใช้สอยในกิจการ หรือ สถานการณ์ ต่างๆ รวมไปถึงการ ออกแบบถุงพลาสติก ออกแบบเสื้อผ้า ด้านหน้าด้านหลัง ได้เป็นอย่างดี แล้วแต่ตามใจชอบ




BricsCAD (โปรแกรมเขียนแบบ รองรับไฟล์ .DWG เหมือน AutoCAD) : สำหรับ โปรแกรม BricsCAD เป็นโปรแกรมเขียนแบบ ถูกลิขสิทธิ์แท้ ๆ จากประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) เป็น โปรแกรมออกแบบที่สามารถใช้งานทดแทนโปรแกรมเขียนแบบ AutoCAD ได้เลย มันสามารถใช้ เปิดไฟล์ DWG ได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานแทน โปรแกรมออกแบบ อื่นๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาด มีราคาคุ้มค่าที่สุด สามารถออกแบบงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เขียนแบบทางวิศวกรรม เขียนแบบโยธา หรือจะทำตัวเป็น โปรแกรมออกแบบบ้าน ออกแบบตึก ออกแบบอาคารสูง หรืองานเขียนแบบอุตสาหกรรม ต่างๆ โปรแกรมนี้ตอบโจทย์ให้คุณได้หมด




Ashampoo 3D CAD Architecture (โปรแกรมออกแบบสิ่งก่อสร้าง อาคาร) : โปรแกรมนี้จัดถือเป็น โปรแกรมออกแบบสิ่งก่อสร้าง ถูกพัฒนาโดยบริษัทผู้พัฒนา โปรแกรมจากประเทศเยอรมัน อย่าง Ashampoo เป็นโปรแกรมที่เอาไว้ให้คุณได้ สามารถออกแบบห้องเดี่ยว อาคาร อพาร์ทเม้นท์ สนาม สนามเด็กเล่น สวนหย่อม สำหรับเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ  นอกจากนี้ โปรแกรมออกแบบบ้าน นี้ยังแสดงแบบจำลองในลักษณะ 3 มิติ หรือจะออกแบบเป็น 2 มิติ ก็สามารถทำได้ ประโยชน์ของมันก็หลายด้าน อาทิเช่น เพื่อสำหรับการทดลองจัดวางเฟอร์นิเจอร์เพื่อเนรมิตแบบห้องต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ของคุณเสียก่อน ด้วยรูปแบบ โปรแกรมออกแบบบ้าน ที่แสดงผลเสมือนจริงให้คุณ ปรับตกแต่ง ได้ก่อนจะใช้จริง โดยโปรแกรมนี้ มันสามารถที่จะส่งออกผลงานการออกแบบ ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ ตระกูล CYG, 3DS, Caligari TrueSpace, DXF, VRML, Lightwave หรือแม้แต่ Wavefront




QCad (โปรแกรมออกแบบ CAD แบบ 2 มิติ ฟรี) : โปรแกรมนี้เป็น โปรแกรมออกแบบ ประเภท CAD 2 มิติ แจกฟรี QCAD ขนาดเล็ก สามารถใช้ออกแบบได้หลากหลาย ใช้งานง่าย มีรูปร่างหน้าตาโดยคล้ายๆ โปรแกรมวาดรูป อย่าง Paint แต่จริงๆ หารู้ไม่ว่ามันคือโปรแกรมออกแบบ ที่มีคุณภาพเทียบเท่า โปรแกรมออกแบบแพงๆ ราคาหลายหมื่นหลายแสนบาทเลยทีเดียว
ภายในโปรแกรม มีรูปทรงหลายรูปทรง วาดรูป ลากเล้น โค้งเว้า วงรี (Ellipse) ลายสลัก (Spline) หรือจะเป็นแบบ Polylines หรือเส้นหลายเหลี่ยม ออกแบบร่างต่างๆ มีรูปแบบตัวอักษร แบบ TrueType Font ที่ใช้ในการออกแบบ มากกว่า 35 แบบ สนับสนุนการออกแบบ วาดรูปแบบชั้น (Layer) มีรูปแบบบล็อกให้เลือก สามารถวาดภาพได้หลากหลาย  สนับสนุนไฟล์ตระกูล .DXF และ .DWG ทั้งการนำไฟล์เข้า และส่งไฟล์ออก (Input / Output) สามารถพิมพ์ออกมาผ่านเครื่องปริ้นเตอร์ได้ที่สนับสนุนทั้ง 2 โหมดคือ พิมพ์ชิดขอบในหน้าเดียวกัน หรือ พิมพ์แบบต่อกันลงบนกระดาษหลายๆ แผ่น หลายๆ หน้าได้อีกด้วย


Artlantis Render (โปรแกรม Artlantis ออกแบบอาคาร แอนิเมชั่น) : โปรแกรม Artlantis เป็นที่นิยมในกลุ่มสถาปนิกและผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก เป็นซอฟต์แวร์ เรนเดอร์ ลิขสิทธิ์ ที่ได้ทั้งคุณภาพ และความรวดเร็ว Artlantis Render ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการนำเสนอทัศนียภาพที่มีคุณภาพสูง ทั้งงานออกแบบอาคาร งานตกแต่งภายใน งานภูมิสถาปัตย์ งานเครื่องประดับ งานออกแบบรถยนต์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย โปรแกรมออกแบบ BIM และ CAD ส่วนใหญ่ที่สามารถเรนเดอร์ได้ จะมีข้อมูลมากเกินความจำเป็นสำหรับการเรนเดอร์ ไฟล์งาน CAD จึงมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ตามพัฒนาการของตัวโครงการ ซึ่งข้อมูลส่วนที่ไม่จำเป็นต่อการเรนเดอร์ก็จะมากขึ้น และไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร จึงทำให้เปลืองหน่วยความจำฮาร์ดดิส
โปรแกรม Artlantis สามารถทำงานในขณะที่โปรแกรมกำลังเรนเดอร์งานอยู่ ซึ่งในโปรแกรม CAD อื่นๆ ไม่สามารถทำได้ และโปรแกรมออกแบบบ้าน Artlantis สามารถตัดไฟล์งานที่ไม่จำเป็นออกให้ท่านแบบอัตโนมัติ ท่านจึงไม่เปลืองพื้นที่ในฮาร์ดดิสของท่านในส่วนงานเก่าที่ไม่จำเป็น Artlantis เป็นโปรแกรมแบบ Stand-alone ไม่ใช่โปรแกรมแบบ Plug in ทำให้สามารถ แยกงานที่กำลังเรนเดอร์ออกจากไฟล์งานที่กำลังออกแบบอยู่ได้ ในขณะที่ Artlantis กำลังคำนวนเรื่องเรนเดอร์ไฟล์งานหลักก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้โดยที่ไม่เสียเวลา



Synfig Studio (โปรแกรม Synfig Studio ออกแบบแอนิเมชั่น 2 มิติ) : สำหรับโปรแกรมนี้มีชื่อว่า โปรแกรม Synfig Studio มันเป็นโปรแกรมที่เอาไว้ออกแบบ หรือ สร้างแอนิเมชั่น แบบ 2 มิติ (2D Animation Software) เอาไว้ใช้ในการสร้างแอนิเมชั่นภาพเคลื่อนไหวการ์ตูน ต่างๆ โดยผ่านการออกแบบด้วยเส้นเวกเตอร์ และกราฟฟิกแบบบิตแมป (Bitmap) โดยคุณสามารถสร้างการเคลื่อนไหวของตัวการ์ตูนด้วยภาพนิ่งกันแบบเฟรมต่อเฟรม ช็อตต่อช็อต ให้คุณได้เนรมิตสร้างการ์ตูนแอนิเมชั่นแบบ 2 มิติ ได้ขึ้นมาง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง โดยโปรแกรม Synfig Studio ตัวนี้ถือว่ากินทรัพยากรเครื่องต่ำมากๆ ใช้งานง่าย เรียนรู้เร็วอีกต่างหาก เหมาะกับการใช้ทำการเรียนการสอน โดยอาจารย์ ครู เอาไว้ใช้สอนนักเรียนนิสิตนักศึกษา ได้เป็นอย่างดี
โดยการใช้งานนั้นลักษณะมันจะเป็นควบคุมด้วยระบบเส้นเวลา หรือ ไทม์ไลน์ (Timeline) คล้ายๆ กับ โปรแกรมตัดต่อวีดีโอโดยทั่วๆ ไปว่าในแต่ละช็อต แต่ละวินาที ที่ผ่านไปนั้นการเคลื่อนไหวของตัวละครในการ์ตูนของคุณเป็นอย่างไรบ้าง โดยมีแถบเครื่องมือที่คล้ายกับ โปรแกรมวาดรูป มาให้เล่นกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการ สามารถเปลี่ยนสี ใส่กรอบ ลากเส้น เติมรูปทรงต่างๆ เข้าไปในเฟรมได้มากมาย กำหนดระดับความช้าเร็วได้ตามใจชอบ ใส่ฟิลเตอร์ เอฟเฟคลูกเล่นต่างๆ ได้เพียบ ด้านการทำงานในการออกแบบ แบ่งลำดับเป็นเลเยอร์ (Layer-Based) เพื่อให้ง่ายต่อการแก้ไขในภายหลัง เหมือนโปรแกรมมืออาชีพเลยทีเดียว เรียกได้ว่าความสามารถของ โปรแกรม Synfig Studio ตัวนี้พกมาแบบจัดเต็มมากๆ ลอง ดาวน์โหลดโปรแกรม ตัวนี้ไปใช้กันดูได้เลย






เทคโนโลยีสะอาด



เทคโนโลยีสะอาด

                         การขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรมก็ให้เกิดปัญหามลภาวะต่าง ๆและกำลังเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกใน ปัจจุบัน ดังนั้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจึงมีการพัฒนาหลักการของเทคโนโลยีสะอาด (Cleaner Technology) การผลิตที่สะอาด (Cleaner Production) การป้องกันมลพิษ (Promotion Prevention) รวมไปถึงการลดการเกิดของเสียให้น้อยที่สุดในกระบวนการผลิต (Waste Minimization) ซึ่งเทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านี้ได้ถูกนำมาใช้เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ว่าจะเลือกใช้วิธีการใดในกระบวนการผลิตของตนเอง
เทคโนโลยีสะอาด คืออะไร
            เทคโนโลยีสะอาด คือ กลยุทธ์ที่ใช้ในการผลิตเชิงอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้วัตถุดิบ และพลังงานในการผลิต ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิต โดยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ และกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดของเสียที่แหล่งกำเนิด เป็นการลดภาระในการกำจัดของเสีย  ช่วยประหยัดวัตถุดิบและพลังงาน เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน ป้องกันและรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกอีกทั้งเป็นการพัฒนาขีดความสามารถ และประสิทธิภาพของการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นในการก้าวไปสู่มาตรฐาน ISO 14000 ของอุตสาหกรรมอีกด้วย


หลักการของเทคโนโลยีสะอาด

            หลักการของเทคโนโลยีสะอาดเน้นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือ การลดการใช้พลังงาน การใช้น้ำและทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ซึ่งจะเห็นว่าหลักการของเทคโนโลยีสะอาดเป็นการป้องกันปัญหามากกว่าการแก้ปัญหานั่นเอง  โดยหลักการของเทคโนโลยีสะอาด สรุปได้ดังนี้
1.  การลดมลพิษที่แหล่งกำเนิด แบ่งได้เป็น 2 แนวทางใหญ่ๆ คือ การเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ และการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิต

1.1  การเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ อาจทำได้โดยการออกแบบให้มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมน้อยที่สุด หรือให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

1.2  การเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิต ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
      1.2.1  การเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบ โดยการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ หรือมีความบริสุทธิ์สูง รวมทั้งลดหรือยกเลิกการใช้วัตถุดิบที่เป็นอันตราย เพื่อหลีกเลี่ยงการเติมสิ่งปนเปื้อนเข้าไปในกระบวนการผลิต และพยายามใช้วัตถุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
      1.2.2  การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ทำได้โดยการออกแบบใหม่ เพิ่มระบบอัตโนมัติเข้าช่วยปรับปรุงคุณภาพของอุปกรณ์ และแสวงหาเทคโนโลยีใหม่มาใช้
      1.2.3  การปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน เป็นขั้นตอนที่ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เสียลดลง และยังทำให้เกิดของเสียที่จะต้องจัดการกำจัดลดน้อยลง โดยกำหนดให้มีขั้นตอนการผลิตกระบวนการงานและขั้นตอนบำรุงรักษาที่ชัดเจน รวมถึงการจัดระบบ การบริหารการจัดการในโรงงาน
2.  การนำกลับมาใช้ใหม่ แบ่งออกได้เป็น 2 แนวทาง คือ
2.1  การใช้ผลิตภัณฑ์หมุนเวียน โดยหาทางนำวัตถุดิบที่ไม่ได้คุณภาพมาใช้ประโยชน์ หรือหาทางใช้ประโยชน์จากสารหรือวัสดุที่ปนอยู่ในของเสีย โดยนำมาใช้ในกระบวนการผลิตเดิม หรือกระบวนการผลิตอื่นๆ
2.2  การใช้เทคโนโลยีหมุนเวียน เป็นการนำเอาของเสียผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อนำเอาทรัพยากรกลับมาใช้อีก หรือเพื่อทำให้เป็นผลพลอยได้

แนวทางของเทคโนโลยีสะอาด
            แนวคิดของเทคโนโลยีสะอาด คือการป้องกันมลพิษที่แหล่งกำเนิด และการลดปริมาณสารเคมีที่ใช้ให้น้อยที่สุด ในการกำจัดมลพิษจากอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ โดยทำได้ตามขั้นตอนโดยเรียงลำดับความสำคัญจากมากไปน้อย ดังนี้
1.
 การลดที่แหล่งกำเนิด      2. การใช้หมุนเวียน
3.
 การบำบัด                          4. การปล่อยทิ้ง       


 การแก้ปัญหาตามแนวทางเทคโนโลยีสะอาดจะเน้นการลดที่ต้นเหตุ กล่าวคือเน้นที่การลดปริมาณการใช้ทรัพยากรลง โดยใช้ปริมาณที่พอดีและเหลือเป็นของเสียน้อยที่สุด ของเสียที่ออกมาต้องนำมาผ่านกระบวนการเพื่อจะนำกลับมาใช้ใหม่ จะทำให้ลดปริมาณของเสียและต้นทุนของการใช้สารเคมีให้น้อยลง ของเสียที่ยังคงเหลืออยู่ต้องผ่านกระบวนการบำบัดจนมีคุณสมบัติดีพอที่จะปล่อยทิ้งได้  การลดการใช้และการนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ จึงเป็นแนวทางหลักของเทคโนโลยีสะอาดมากกว่าการแก้โดยการบำบัดดังเช่นที่ทำกันโดยทั่วไป ซึ่งเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายของโรงงานอุตสาหกรรมด้วย
เทคนิคของเทคโนโลยีสะอาด
            เทคโนโลยีสะอาด จะเน้นการลดที่แหล่งกำเนิดและการนำกลับมาใช้ใหม่ โดยในการทำจะต้องมีการศึกษาถึงกระบวนการผลิต เพื่อหาแนวทางที่จะปรับปรุงกระบวนการในการลดการใช้และการนำกลับมาใช้ใหม่ของพลังงาน สารเคมี หรือน้ำ
            ในการเสนอทางเลือกเทคโนโลยีสะอาด (CT option) และการดำเนินงานในการนำเทคโนโลยีสะอาดมาใช้ มีขั้นตอนในการประยุกต์ใช้ตามหลักของเทคโนโลยีสะอาด 5 ขั้นตอน คือ
1.       การวางแผนและการจัดองค์กร (Planning & Organization)
2.       การประเมินเบื้องต้น (Pre-Assessment)
3.       การประเมินผล (Assessment)
4.       การศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility)
5.       การลงมือปฏิบัติ (Implementation)
หลังจากที่มีการตัดสินใจที่จะใช้เทคโนโลยีสะอาดในอุตสาหกรรม ต้องมีการวางแผนและจัดการ มีการสำรวจข้อมูล ทำการประเมินเบื้องต้น และทำการประเมินในขั้นตอนต่อมา โดยในขั้นตอนการประเมินเบื้องต้นและการประเมินเกี่ยวข้องกับการสร้างแผนภาพกระบวนการผลิต (Process Flow Chart) พิจารณาการป้อนเข้า (Input) และการจ่ายออก (Output) ของแต่ละปฏิบัติการหน่วย (Unit operation) และสมดุลมวลสารและสมดุลพลังงานขึ้น ทำให้สามารถวิเคราะห์หาสาเหตุและปริมาณของ ของเสียที่ได้จากกระบวนการผลิตเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาต่อไป โดยทางเลือกที่นำเสนอต้องมีความเป็นไปได้ในทางเศรษฐศาสตร์ ไม่มีการลงทุนที่สูงเกินไป และสามารถคืนทุนได้ในระยะสั้น เมื่อวิธีการสอดคล้องกับเศรษฐศาสตร์จึงลงมือปฏิบัติการ และดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

 การเริ่มต้นประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสะอาด
         1.       ผู้บริหารเห็นความสำคัญและมีความมุ่งมั่น
         2.       พนักงานมีความเข้าใจ และเห็นความสำคัญ
         3.       ระบุสาเหตุ แนวโน้มของปัญหาการใช้ทรัพยากรของเสียและสิ่งแวดล้อม
         4.       ประเมินวิธีการแก้ไข ปรับปรุงโดยอาศัยความรู้แขนงต่างๆ
         5.       เริ่มดำเนินการในส่วนที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ หรือคุ้มค่าสูงสุด

การนำเทคโนโลยีสะอาดในการผลิตเชิงอุตสาหกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลกำไร รวมทั้งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกอีกด้วย โดยหลักการที่สำคัญของเทคโนโลยีนี้ ได้แก่ การลดมลพิษที่แหล่งกำเนิดและการนำกลับมาใช้ใหม่ (การใช้หมุนเวียน)


5w1H


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ 5w1H

5W1H: วิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อรวบรวมและนำเสนอข้อมูลที่สำคัญ


5W1 หนึ่งในเครื่องมือที่ใช้มากที่สุดในระดับสากลสำหรับการรวบรวมข้อมูล,วิเคราะห์และการนำเสนอเป็นกรอบ 5W1H
วิธีนี้จะใช้ในช่วงของกระบวนการนักวิเคราะห์วิศวกรที่มีคุณภาพที่จะเข้าใจและอธิบายความจริงปัญหาใด ๆ หรือปัญหาวิธีการเดียวกันสามารถที่ใช้ในการจัดระเบียบการเขียนของรายงานบทความเอกสารและแม้ทั้งหนังสือ
วิธีการพื้นฐาน
วิธีการนี้พยายามที่จะตอบคำถามพื้นฐานในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องใด ๆ ของ: ใครอะไรเมื่อไหร่ที่ไหนทำไมและวิธีการ บางครั้งขึ้นอยู่กับบริบทที่สอง"H"อย่างไร
What.
คือเรื่องหลักของการรวบรวมข้อมูลเหตุผลและการนำเสนอ อาจจะเป็นที่ระบุไว้ในชื่อเรื่องและวัตถุประสงค์ อาจต้องจะกำหนดกระบวนการที่อาจประกอบด้วยส่วนที่เหลือของเอกสาร
Who.
สิ่งแวดล้อมอื่นๆ คนหรือกลุ่มความกังวลมันอาจอธิบายเอกสารหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการหรือขั้นตอน

When.
หมายถึงเมื่อไหร่ในเวลาใดที่เกี่ยวข้อง มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งกับจุดที่เหมาะสมที่จะต้องดำเนินการ บางครั้งมันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์ของการกระทำตามเงื่อนไข
Where.
เหตุการณ์หรือกระบวนการนั้น เกิดขึ้นที่ไหนเมื่อไหร่
Why.
เหตุใดถึงทำสิ่งนั้นหรือ เพราะเหตุใดถึงเกิดเหตุการณ์นั้นๆ อาจมีการพิจารณาที่ไม่เกี่ยวข้องอาจจะเกิดจากนโยบายหรือขั้นตอน
How.
เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เมื่ออธิบายนโยบายกระบวนการหรือขั้นตอนอาจ
เป็นส่วนสำคัญที่สุด
Conclusion.
5W1H สามารถนำไปใช้หัวข้อใด ๆ เพื่อรวบรวมวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลจากข้อมูลที่ซับซ้อนทำให้เป็นข้อมูลง่าย


ตัวอย่างการออกแบบ

ตัวอย่าง งานจริง ตกแต่งภายใน คอนโด ลุมพินี
สมัยนี้ คอนโด ที่ขายดี เป็นห้องขนาด กลาง และ ขนาดเล็ก มีให้เลือกมากมาย ทั้งออกใหม่และ มือสอง
สวนเราก็ไม่ต้องไปเสียเงินจัด ก็เอาเงินมาแต่งห้องให้สบายใจ ดีกว่าจะอยู่ ห้อง กับเฟอร์ โหลๆ ของแถม คูปองส่วน ลด ระวังคนเมา เข้าห้องผิด เพราะ มันเหมือนกันไปหมด ราวกับนัดกันมา







การออกแบบ


        การออกแบบ หมายถึงอะไรนั้น ขอยกตัวอย่างคนที่เคยคิดและเขียนบอกเอาไว้แล้วเช่น โกฟ (Gove, 1965::165) เค้าบอกไว้ว่า การออกแบบเป็นการจัดแต่งองค์ประกอบมูลฐานในการสร้างงานศิลปกรรม เครื่องจักร หรือประดิษฐกรรมของมนุษย์



การออกแบบรูปร่างต่างๆ

        การออกแบบจะทำให้ เราสามารถถ่ายทอดรูปแบบจากความคิดออกมาเป็นผลงาน ที่ผู้อื่น สามารถมองเห็น รับรู้ หรือสัมผัสได้ เพื่อให้มีความเข้าใจในผลงานร่วมกัน
ความสำคัญของการออกแบบ เช่น
        - ในแง่ของการวางแผนการการทำงาน งานออกแบบจะช่วยให้การทำงานเป็นไปตาม ขั้นตอน อย่างเหมาะสม และประหยัดเวลา ดังนั้นอาจถือว่าการออกแบบ คือ การวาง แผนการทำงานก็ได้
        - ในแง่ของการนำเสนอผลงาน ผลงานออกแบบจะช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องมีความเข้าใจ ตรงกันอย่างชัดเจน ดังนั้น ความสำคัญในด้านนี้ คือ เป็นสื่อความหมายเพื่อความเข้าใจ ระหว่างกัน
        - เป็นสิ่งที่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับงาน งานบางประเภทอาจมีรายละเอียดมากมาย ซับซ้อน ผลงานออกแบบจะช่วยให้ผู้เกี่ยวข้อง และผู้พบเห็นมีความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น หรืออาจกล่าวได้ว่า ผลงานออกแบบ คือ ตัวแทนความคิดของผูออกแบบได้ทั้งหมด
        - แบบ จะมีความสำคัญอย่างที่สุด ในกรณีที่ นักออกแบบกับผู้สร้างงานหรือผู้ผลิต เป็นคนละคนกัน เช่น สถาปนิกกับช่างก่อสร้าง นักออกแบบกับผู้ผลิตในโรงงาน หรือถ้าจะเปรียบไปแล้ว นักออกแบบก็เหมือนกับคนเขียนบทละครนั่นเอง
แบบ เป็นผลงานจากการออกแบบ เป็นสิ่งที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์และฝีมือของ นักออกแบบ แบบมีอยู่หลายลักษณะ ดังนี้ คือ
        1. 
เป็นภาพวาดลายเส้น (drawing) ภาพระบายสี (Painting) ภาพถ่าย (Pictures) หรือแบบร่าง (Sketch) แบบที่มีรายละเอียด (Draft) เช่น แบบก่อสร้าง ภาพพิมพ์ (Printing) ฯลฯ ภาพต่าง ๆ ใช้แสดงรูปลักษณะของงาน หรือแสดงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับงาน ที่เป็น 2 มิติ
        2. 
เป็นแบบจำลอง (Model) หรือของจริง เป็นแบบอีกประเภทหนึ่งที่ใช้แสดง รายละเอียดของงานได้ชัดเจนกว่าภาพต่าง ๆ เนื่องจากมีลักษณะเป็น 3 มิติ ทำให้ สามารถเข้าใจในผลงานได้ดีกว่า นอกจากนี้ แบบจำลองบางประเภทยังใช้งานได้ เหมือนของจริงอีกด้วยจึงสมารถใช้ในการทดลอง และทดสอบการทำงาน เพื่อหา ข้อบกพร่องได้
ประเภทของการออกแบบ
        
1. การออกแบบทางสถาปัตยกรรม (Architecture Design)
เป็นการออกแบบเพื่อ การก่อสร้าง สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ นักออกแบบสาขานี้ เรียกว่า
 สถาปนิก (Architect) ซึ่ง โดยทั่วไปจะต้องทำงานร่วมกับ วิศวกรและมัณฑนากร โดยสถาปนิก รับผิดชอบเกี่ยว กับประโยชน์ใช้สอยและความงามของสิ่งก่อสร้าง งานทางสถาปัยตกรรมได้แก่
                - 
สถาปัตยกรรมทั่วไป เป็นการออกแบบสิ่งก่อสร้างทั่วไป เช่น อาคาร บ้านเรือน ร้านค้า โบสถ์ วิหาร ฯลฯ
                - 
สถาปัตยกรรมโครงสร้าง เป็นการออกแบบเฉพาะโครงสร้างหลักของอาคาร
                - 
สถาปัตยกรรมภายใน เป็นการออกแบบที่ต่อเนื่องจากงานโครงสร้าง ที่เป็นส่วนประกอบของอาคาร
                - 
งานออกแบบภูมิทัศน์ เป็นการออกแบบที่มีบริเวณกว้างขวาง เป็นการจัดบริเวณพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอยและความสวยงาม
                - 
งานออกแบบผังเมือง เป็นการออกแบบที่มีขนาดใหญ่ และมีองค์ประกอบซับซ้อน ซึ่งประกอบ ไปด้วยกลุ่มอาคารจำนวนมาก ระบบภูมิทัศน์ ระบบสาธารณูปโภค ฯลฯ

.jpg            _(1).jpg

images.jpg

        2. การออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design)
เป็นการออกแบบเพื่อการผลิต ผลิตภัณฑ์ ชนิดต่าง ๆงานออกแบบสาขานี้ มีขอบเขตกว้างขวางมากที่สุด และแบ่งออกได้มากมาย หลาย ๆ ลักษณะ นักออกแบบรับผิดชอบเกี่ยวกับประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามของ ผลิตภัณฑ์ งานออกแบบประเภทนี้ได้แก่
                - งานออกแบบเฟอร์นิเจอร์
                - งานออกแบบครุภัณฑ์
                - งานออกแบบเครื่องสุขภัณฑ์
                - งานออกแบบเครื่องใช้สอยต่างๆ
                - งานออกแบบเครื่องประดับ อัญมณี
                - งานออกแบบเครื่องแต่งกาย
                - งานออกแบบภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ์
                - งานออกแบบผลิตเครื่องมือต่าง ๆ ฯลฯ

  
ออกแบบเฟอร์นิเจอร์

        
ออกแบบเครื่องใช้ไฟฟ้าผลิตภัณฑ์ทั่วๆไป อันนี้ จะเป็น งานพรีเซนต์และ ทำโมเดลด้วยไฟเบอร์

        3. การออกแบบทางวิศวกรรม (Engineering Design)
เป็นการออกแบบเพื่อการผลิต ผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ เช่นเดียวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกัน ต้องใช้ ความรู้ความสามารถและเทคโนโลยีในการผลิตสูง ผู้ออกแบบคือ วิศวกร ซึ่งจะรับผิดชอบ ในเรื่องของประโยชน์ใช้สอย ความปลอดภัยและ กรรมวิธีในการผลิต บางอย่างต้องทำงาน ร่วมกันกับนักออกแบบสาขาต่าง ๆ ด้วย งานอกแบบประเภทนี้ได้แก่
                - งานออกแบบเครื่องใช้ไฟฟ้า
                - งานออกแบบเครื่องยนต์
                - งานออกแบบเครื่องจักรกล
                - งานออกแบบเครื่องมือสื่อสาร
                - งานออกแบบอุปกณ์อิเลคทรอนิคส์ต่าง ๆ ฯลฯ

images_(9).jpg     
     images_(8).jpg                  images_(7).jpg
        4. การออกแบบตกแต่ง (Decorative Design)
เป็นการออกแบบเพื่อการตกแต่งสิ่งต่าง ๆ ให้สวยงามและเหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น นักออกแบบเรียนว่า มัณฑนากร (Decorator) ซึ่งมักทำงานร่วมกับสถาปนิก งานออกแบบประเภทนี้ได้แก่
                - งานตกแต่งภายใน (Interior Design)
                - งานตกแต่งภายนอก (Exterior Design)
                - งานจัดสวนและบริเวณ ( Landscape Design)
                - งานตกแต่งมุมแสดงสินค้า (Display)
                - การจัดนิทรรศการ (Exhibition)
                - การจัดบอร์ด
                - การตกแต่งบนผิวหน้าของสิ่งต่าง ๆ เป็นต้น ฯลฯ


images1.jpg        images2.jpg

        5. การออกแบบสิ่งพิมพ์ (Graphic Design)
เป็นการออกแบบเพื่อทางผลิตงานสิ่งพิมพ์ ชนิดต่าง ๆ ได้แก่ หนังสือ หนังสือพิมพ์ โปสเตอร์ นามบัตร บัตรต่าง ๆ งานพิมพ์ลวดลายผ้า งานพิมพ์ภาพลงบนสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ งานออกแบบรูปสัญลักษณ์ เครื่องหมายการค้า ฯลฯ


ad1


กระบวนการเทคโนโลยี

ระบวนการเทคโนโลยีคืออะไร
ในชีวิตประจำวันของมนุษย์มีกิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นมากมายตามเงื่อนไขและปัจจัยในการดำรงชีวิตของแต่ละคน ทำให้บางครั้งมนุษย์ต้องพบเจอกับปัญหาหรือความต้องการที่จะทำให้การดำรงชีวิตดีขึ้น เราเรียกว่า “สถานการณ์เทคโนโลยี"
การพิจารณาว่าสถานการณ์ใดเป็นสถานการณ์เทคโนโลยี จะพิจารณาจาก 3 ประเด็นคือ เป็นปัญหาหรือความต้องการของมนุษย์ เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม หรือเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐศาสตร์
การแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการที่พบในสถานการณ์เทคโนโลยี จะต้องใช้ทรัพยากร ความรู้และทักษะต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องมีวิธีการหรือกระบวนการทำงานในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการอย่างเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน ซึ่งเรียกกระบวนการนั้นว่า “กระบวนการเทคโนโลยี



กระบวนการเทคโนโลยีมีกี่ขั้นตอน
 กระบวนการเทคโนโลยี เป็นขั้นตอนการทำงานเพื่อสร้างสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการของมนุษย์ กระบวนการเทคโนโลยี ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ดังนี้
1. กำหนดปัญหาหรือความต้องการ (Identify the problem)
2. รวบรวมข้อมูล (Information gathering)
3. เลือกวิธีการ (Selection)
4. ออกแบบและปฏิบัติการ (Design and making)
5. ทดสอบ (Testing)
6. ปรับปรุงแก้ไข (Modification and improvement)
7. ประเมินผล (Assessment)

ขั้นที่ 1 กำหนดปัญหาหรือความต้องการ
ขั้นตอนแรกของกระบวนการเทคโนโลยี คือ การกำหนดปัญหาหรือความต้องการ ซึ่งเป็นการทำความเข้าใจหรือวิเคราะห์ปัญหาหรือความต้องการหรือสถานการณ์เทคโนโลยีอย่างละเอียด เพื่อกำหนดกรอบของปัญหาหรือความต้องการให้ชัดเจนมากขึ้น
 ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูล
การรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาหรือความต้องการที่กำหนดไว้ในขั้นกำหนดปัญหาหรือความต้องการจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น ศึกษาจากตำรา วารสาร บทความ สารานุกรม สืบค้นจากอินเทอร์เน็ต ระดมสมองจากสมาชิกในกลุ่ม โดยควรมีการรวบรวมข้อมูลรอบด้านให้ครอบคลุมปัญหาหรือความต้องการ ซึ่งจะทำให้เราสามารถสรุปวิธีการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการได้ครบถ้วนสมบูรณ์ขึ้น
 ขั้นที่ 3 เลือกวิธีการ
การเลือกวิธีการ เป็นการพิจารณาและเลือกวิธีการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปัญหาหรือความต้องการมากที่สุด โดยใช้กระบวนการตัดสินใจเลือกจากวิธีการที่สรุปได้ในขั้นรวบรวมข้อมูล ประเด็นที่ควรนำมาพิจารณาคือ ข้อดี ข้อเสีย ความสอดคล้องกับทรัพยากรที่มีอยู่ ความประหยัด และการนำไปใช้ได้จริงของแต่ละวิธี เช่น ทำให้ดีขึ้น สะดวกสบายหรือรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ควรพิจารณาคัดเลือกวิธีการโดยใช้กรอบของปัญหาหรือความต้องการมาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือก
 ขั้นที่ 4 ออกแบบและปฏิบัติการ
การออกแบบและปฏิบัติการเป็นการถ่ายทอดความคิดหรือลำดับความคิดหรือจินตนาการให้เป็นขั้นตอน เกี่ยวกับวิธีการ แก้ปัญหาหรือสนองความต้องการโดยละเอียด โดยใช้การร่างภาพ 2 มิติ การร่างภาพ 3 มิติ การร่างภาพฉาย แบบจำลอง หรือแบบจำลองความคิด และวางแผนการปฏิบัติงานอย่างเป็นขั้นตอน จากนั้นลงมือสร้างตามแนวทางที่ได้ถ่ายทอดความคิดและวางแผนการปฏิบัติงานไว้ ผลงานที่ได้อาจเป็นชิ้นงานหรือแบบจำลองวิธีการ
 ขั้นที่ 5 ทดสอบ
การทดสอบเป็นการตรวจสอบชิ้นงานหรือแบบจำลองวิธีการที่สร้างขึ้นว่ามีความสอดคล้อง ตามแบบที่ได้ถ่ายทอดความคิดไว้หรือไม่ สามารถทำงานหรือใช้งานได้หรือไม่ มีข้อบกพร่องอย่างไร หากผลการทดสอบพบว่า ชิ้นงานหรือแบบจำลองวิธีการไม่สอดคล้องตามแบบที่ถ่ายทอดความคิดไว้ ทำงานหรือใช้งานไม่ได้ หรือมีข้อบกพร่องที่ควรปรับปรุงแก้ไข จะต้องมีการบันทึกสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไว้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นข้อมูลที่นำไปสู่การปฏิบัติงานในขั้นปรับปรุงแก้ไขต่อไป
 ขั้นที่ 6 ปรับปรุงแก้ไข
การปรับปรุงแก้ไข เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากขั้นทดสอบว่าควรปรับปรุงแก้ไขชิ้นงานหรือแบบจำลองวิธีการในส่วนใด ควรปรับปรุงแก้ไขอย่างไร แล้วจึงดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในส่วนนั้น จนกระทั่งชิ้นงานหรือแบบจำลองวิธีการสอดคล้องตามแบบที่ถ่ายทอดความคิดไว้ ทำงานหรือใช้งานได้ ในขั้นตอนนี้อาจจำเป็นต้องกลับไปที่ขั้นตอนออกแบบและปฏิบัติการอีกครั้งเพื่อถ่ายทอดความคิดใหม่หรืออาจกลับไปขั้นตอนรวบรวมข้อมูลและเลือกวิธีการที่เหมาะสมอีกครั้งก็ได้ เพื่อให้ได้สิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการที่เหมาะสมมากขึ้น
 ขั้นที่ 7 ประเมินผล
การประเมินผล เป็นการนำชิ้นงานหรือวิธีการที่ได้สร้างขึ้นไปดำเนินการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการที่กำหนดไว้ในขั้นกำหนดปัญหาหรือความต้องการ และประเมินผลที่เกิดขึ้นว่าชิ้นงานหรือวิธีการนั้นสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่ หากผลการประเมินพบว่า ชิ้นงานหรือวิธีการไม่สามารถแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการได้ ควรพิจารณาว่าจำเป็นต้องแก้ไขในขั้นตอนใด เพื่อนำไปปรับปรุงตามกระบวนการเทคโนโลยีอีกครั้ง เพื่อทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การนำกระบวนการเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ในการทำงานต่างๆ ในชีวิตประจำวันนั้น สามารถช่วยให้ผู้นำไปใช้เกิดกระบวนการทำงานที่เป็นขั้นตอน ซึ่งจะช่วยให้สามารถแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการได้ง่ายขึ้น โดยหากผู้อ่านท่านใดนสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดาวน์โหลด เอกสารเผยแพร่ เรื่อง กระบวนการเทคโนโลยี ได้ตามลิงค์ด้านล่าง